ข้อควรระวังในการหาบ้านในเกาหลี (ความแตกต่างระหว่าง "Jeonse" และ "월세, Wolse")
📢 หาที่พักในเกาหลีควรระวังอะไรบ้าง? 🏠
หากคุณวางแผนจะมาอยู่ที่เกาหลี หนึ่งในสิ่งสำคัญที่ต้องเตรียมตัวคือ การหาที่พัก 🏡
ระบบการเช่าในเกาหลีอาจแตกต่างจากที่คุณคุ้นเคย เพราะมีทั้ง Jeonse (ระบบวางเงินประกันเต็มจำนวน) และ Wolse (ระบบจ่ายค่าเช่ารายเดือน)
หากคุณไม่คุ้นเคยกับแนวทางเหล่านี้ อาจทำให้เกิดความสับสนและมีปัญหาได้
วันนี้เราจะมาแนะนำ ข้อควรระวังในการหาที่พักในเกาหลี และ ความแตกต่างระหว่าง Jeonse และ Wolse เพื่อให้คุณสามารถเลือกที่พักที่เหมาะกับตัวเองได้ง่ายขึ้นค่ะ 😊
✅ วิธีหาที่พักในเกาหลี
โดยทั่วไปแล้ว ในเกาหลีสามารถหาที่พักได้ 2 วิธีหลักๆ
1. ผ่านนายหน้าอสังหาริมทรัพย์ (부동산, Budongsan)
- วิธีที่นิยมที่สุดคือ การใช้บริการนายหน้าอสังหาริมทรัพย์ หรือที่เรียกว่า 부동산 (Budongsan)
- นายหน้าจะช่วยคุณหา ห้องพักตามงบประมาณและทำเลที่ต้องการ และช่วยจัดการเอกสารสัญญาให้
- อย่างไรก็ตาม ควรตรวจสอบให้ดีว่ามี ค่าธรรมเนียมในการดำเนินการ (중개수수료, ค่านายหน้า) หรือไม่
2. หาห้องเองผ่านเว็บไซต์หรือแอปพลิเคชัน
- หากต้องการหาที่พักด้วยตัวเอง สามารถค้นหาผ่านแอปพลิเคชันหรือเว็บไซต์ เช่น Naver 부동산, 직방 (Jikbang), 다방 (Dabang)
- วิธีนี้อาจช่วยลดค่านายหน้าได้ แต่หากไม่เข้าใจภาษาเกาหลีดีพอ อาจมีความเสี่ยงสูง เช่น การอ่านเอกสารสัญญาผิดพลาด
- ดังนั้น หากเป็นไปได้ ควรมี คนที่พูดภาษาเกาหลีช่วยดูแลในขั้นตอนการทำสัญญา
✅ ความแตกต่างระหว่าง Jeonse และ Wolse
Jeonse (전세) – ระบบเงินประกันเต็มจำนวน (ไม่มีค่าเช่ารายเดือน)
Jeonse เป็นระบบที่ ไม่ต้องจ่ายค่าเช่ารายเดือน แต่ต้อง วางเงินประกันจำนวนมาก ไว้กับเจ้าของห้องพัก
- โดยปกติแล้ว ผู้เช่าจะต้อง วางเงินประกันเป็นจำนวน 50-80% ของราคาห้อง
- เมื่อครบกำหนดสัญญา (ปกติ 2 ปี) เจ้าของจะคืนเงินประกันให้ทั้งหมด
- แต่ข้อเสียคือ ต้องใช้เงินก้อนใหญ่ เช่น หากค่า Jeonse อยู่ที่ 200 ล้านวอน (ประมาณ 5 ล้านบาท) คุณต้องจ่ายเงินก้อนนี้ทั้งหมดก่อนเข้าอยู่
Jeonse เหมาะสำหรับคนที่มีเงินเก็บจำนวนมากและต้องการอยู่ในระยะยาวโดยไม่ต้องกังวลเรื่องค่าเช่ารายเดือน
Wolse (월세) – ระบบจ่ายค่าเช่ารายเดือน
Wolse เป็นระบบที่ มีการจ่ายค่าเช่าทุกเดือน และมีเงินประกันเช่นกัน แต่จำนวนเงินประกันจะน้อยกว่า Jeonse
- โดยทั่วไป ถ้าวางเงินประกันมาก ค่าเช่ารายเดือนจะถูกลง
- หากต้องการจ่ายค่าเช่ารายเดือนน้อยลง ก็สามารถเลือกวางเงินประกันเพิ่มได้
- ยกตัวอย่างเช่น วางเงินประกัน 5 ล้านวอน (ประมาณ 125,000 บาท) แล้วจ่ายค่าเช่ารายเดือน 500,000 วอน (ประมาณ 12,500 บาท)
Wolse เหมาะสำหรับคนที่ต้องการ ยืดหยุ่นทางการเงิน และไม่ต้องการใช้เงินก้อนใหญ่สำหรับค่ามัดจำ
✅ ข้อควรระวังในการเช่าห้องในเกาหลี
📌 อ่านสัญญาให้ละเอียด
- สัญญาเช่าห้องในเกาหลีจะระบุ เงินประกัน, ค่าเช่ารายเดือน, ค่าบำรุงรักษา และเงื่อนไขการคืนเงินประกัน
- หากไม่เข้าใจภาษาเกาหลีดี ควรให้ คนที่เชี่ยวชาญช่วยตรวจสอบเอกสาร
📌 ตรวจสอบค่าบำรุงรักษา (관리비, Gwanlibi)
- บางที่ค่าเช่ารายเดือนอาจจะดูถูก แต่มี ค่าบำรุงรักษาเพิ่มเติม เช่น ค่าส่วนกลาง, ค่าน้ำ, ค่าไฟ, ค่าขยะ, ค่าอินเทอร์เน็ต
- ควรถามเจ้าของบ้านให้ชัดเจนว่า ค่าบำรุงรักษานี้รวมอะไรบ้าง
📌 ระวังเรื่องการคืนเงินประกัน
- หากเป็น Jeonse ต้องตรวจสอบว่า มีการลงทะเบียนหลักทรัพย์อย่างถูกต้อง
- ในบางกรณี เจ้าของบ้านอาจคืนเงินประกันล่าช้าหรือไม่คืน ดังนั้นการทำ ประกันเงินประกัน (전세보증보험) จะช่วยป้องกันความเสี่ยงนี้
📌 ทำเลที่ตั้งสำคัญมาก
- ในเกาหลี ยิ่งอยู่ใกล้สถานีรถไฟฟ้าใต้ดิน ราคายิ่งแพง
- ควรเลือกที่พักที่อยู่ใกล้ ระบบขนส่งสาธารณะ ร้านค้า และซูเปอร์มาร์เก็ต เพื่อความสะดวกสบายในการใช้ชีวิต
หากคุณกำลังมองหาที่พักในเกาหลี ควรทำความเข้าใจเกี่ยวกับ Jeonse และ Wolse ว่าแบบไหนเหมาะกับคุณ
- หากคุณมีเงินเก็บและอยากอยู่ระยะยาว Jeonse อาจเป็นทางเลือกที่ดี เพราะไม่ต้องจ่ายค่าเช่ารายเดือน
- แต่ถ้าคุณต้องการความยืดหยุ่นและไม่อยากใช้เงินก้อนใหญ่ Wolse จะเป็นตัวเลือกที่เหมาะสมกว่า
- นอกจากนี้ ควรอ่านสัญญาให้ละเอียด และ ตรวจสอบค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม ก่อนทำการเช่า
การเลือกที่พักในเกาหลีอาจเป็นเรื่องที่ท้าทายสำหรับชาวต่างชาติ แต่หากคุณมีความเข้าใจที่ถูกต้อง จะสามารถเลือกที่พักที่เหมาะสมและปลอดภัยได้ค่ะ 😊
หากมีข้อสงสัยเพิ่มเติม อย่าลังเลที่จะสอบถามนะคะ!
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น